กลิ่นปาก เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและทำให้มีความกังวลใจ รวมถึงขาดความมั่นใจในการสนทนา
กลิ่นปาก เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและทำให้มีความกังวลใจ รวมถึงขาดความมั่นใจในการสนทนากับบุคคลอื่นรอบข้าง ซึ่งเป็นปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ แต่ก็มีหลายคนที่มักจะเก็บความกังวลใจกับปัญหากลิ่นปากเอาไว้จนทำให้เสียบุคลิกภาพ กลายเป็นคนขาดความมั่นใจไปเลยก็มีนะคะ
ในความเป็นจริงแล้ว ปัญหาของกลิ่นปากนั้นเกิดได้จากหลายหลายสาเหตุ เราจะมาดูกันว่าสาเหตุนั้นคืออะไร ซึ่งเมื่อทราบแล้วก็จะสามารถรักษาให้ถูกวิธีจากปัญหาที่เกิดขึ้นได้นะคะ
สาเหตุของการเกิดกลิ่นปาก
- การไม่รักษาความสะอาดในช่องปากอย่างถูกวิธี เช่น ตามซอกฟันที่แปรงสีฟัน แปรงไม่ถึง รวมถึงการแปรงฟันไม่สะอาด ทำให้มีเศษอาหารตกค้างอยู่ ตามซอกของฟัน
- หินปูนที่เกิดขึ้นที่ฟัน เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค ก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดกลิ่นปากได้เช่นกัน
- ฟันผุ โรคเหงือกอักเสบ แผลร้อนใน หรือแผลที่เกิดจากการติดเชื้อต่าง ๆ ในช่องปาก รวมถึงการเป็นโพรงไซนัสอักเสบ หรือโรคที่เกี่ยวกับทางเดินอาหารก็มีผลต่อการเกิดกลิ่นปากเช่นกัน
- ฝ้าขาวบนลิ้น เป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียบนพื้นผิวของลิ้น ก่อให้เกิดกลิ่นปากได้อย่างมากเลยทีเดียวนะคะ
- การใส่ฟันปลอม ที่ไม่ทำความสะอาด หรือดูแลรักษาอย่างถูกต้อง อาจจะมีคราบอาหารติดอยู่ เนื่องจากครอบฟันไม่แนบกับตัวฟัน
- การรับประทานอาหารที่มีกลิ่นรุนแรง เช่น กระเทียม หัวหอม หรือผลไม้อย่างทุเรียน เป็นต้น
ที่สำคัญนั้น กลิ่นปากมักจะมีมากขึ้นในตอนเช้า เนื่องจากขณะที่ร่างกายหลับนั้น จะมีการขับน้ำลายออกมาเป็นจำนวนน้อย ทำให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคในช่องปากตอนเช้า จึงมีกลิ่นปากที่ค่อนข้างแรงกว่าช่วงเวลาอื่น
วิธีการแก้ไขกลิ่นปาก
เนื่องจากสาเหตุส่วนใหญ่มักเป็นจากโรคของในช่องปากเอง ดังนั้นการพบทันตแพทย์ ตรวจเช็คสุขภาพฟัน เป็นเรื่องที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ และที่สำคัญ การดูแลรักษาสุขอนามัยในช่องปากด้วยการแปรงฟันอย่างถูกวิธี ด้วยการแปรงฟันให้สะอาดหรือใช้ไหมขัดฟันช่วยขจัดเศษอาหารตามซอกฟันที่ขนแปรงสีฟันอาจจะเข้าไม่ถึง รวมถึงหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีกลิ่นแรง ซึ่งการแปรงฟันอาจจะช่วยลดแบคทีเรียในช่องปากได้เพียงแค่ บางส่วนเท่านั้น ซึ่งทำให้ไม่ทั่วถึง จึงควรใช้น้ำยาบ้วนปากซึ่งจะช่วยลดแบคทีเรียในที่ ๆ แปรงเข้าไม่ถึง ด้วยน้ำยาบ้วนปากคอลเกต พลักซ์ จะช่วยขจัดกลิ่นปากได้ และยังช่วยปกป้องยาวนาน 12 ชั่วโมง รวมถึงช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียได้อีกด้วย
หรือในกรณีที่มีการแก้ไขปัญหากลิ่นปากแบบผิด ๆ เช่น การอมลูกอมหรือเคี้ยวหมากฝรั่งที่มีกลิ่นช่วยลดกลิ่นปาก อาจจะสามารถช่วยลดกลิ่นปากได้ แต่ลูกอม และหมากฝรั่งบางชนิดจะมีส่วนประกอบของน้ำตาลมาก อาจสร้างปัญหาทำให้เกิดฟันผุตามมาและเกิดเป็นกลิ่นปากขึ้นมาใหม่ได้
ทางที่ดี เราควรที่จะดูแลสุขภาพช่องปากให้อย่างถูกต้องและถูกวิธี แต่ถ้าหากรักษาสุขภาพในช่องปากดีแล้วกลิ่นปากยังไม่หายไป ควรที่จะปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุอื่นที่อาจทำให้เกิดมีกลิ่นปากต่อไปนะคะ
ที่มา colgateplax.co.th
กลิ่นปาก เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและทำให้มีความกังวลใจ รวมถึงขาดความมั่นใจในการสนทนากับบุคคลอื่นรอบข้าง ซึ่งเป็นปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ แต่ก็มีหลายคนที่มักจะเก็บความกังวลใจกับปัญหากลิ่นปากเอาไว้จนทำให้เสียบุคลิกภาพ กลายเป็นคนขาดความมั่นใจไปเลยก็มีนะคะ
ในความเป็นจริงแล้ว ปัญหาของกลิ่นปากนั้นเกิดได้จากหลายหลายสาเหตุ เราจะมาดูกันว่าสาเหตุนั้นคืออะไร ซึ่งเมื่อทราบแล้วก็จะสามารถรักษาให้ถูกวิธีจากปัญหาที่เกิดขึ้นได้นะคะ
สาเหตุของการเกิดกลิ่นปาก
- การไม่รักษาความสะอาดในช่องปากอย่างถูกวิธี เช่น ตามซอกฟันที่แปรงสีฟัน แปรงไม่ถึง รวมถึงการแปรงฟันไม่สะอาด ทำให้มีเศษอาหารตกค้างอยู่ ตามซอกของฟัน
- หินปูนที่เกิดขึ้นที่ฟัน เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค ก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดกลิ่นปากได้เช่นกัน
- ฟันผุ โรคเหงือกอักเสบ แผลร้อนใน หรือแผลที่เกิดจากการติดเชื้อต่าง ๆ ในช่องปาก รวมถึงการเป็นโพรงไซนัสอักเสบ หรือโรคที่เกี่ยวกับทางเดินอาหารก็มีผลต่อการเกิดกลิ่นปากเช่นกัน
- ฝ้าขาวบนลิ้น เป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียบนพื้นผิวของลิ้น ก่อให้เกิดกลิ่นปากได้อย่างมากเลยทีเดียวนะคะ
- การใส่ฟันปลอม ที่ไม่ทำความสะอาด หรือดูแลรักษาอย่างถูกต้อง อาจจะมีคราบอาหารติดอยู่ เนื่องจากครอบฟันไม่แนบกับตัวฟัน
- การรับประทานอาหารที่มีกลิ่นรุนแรง เช่น กระเทียม หัวหอม หรือผลไม้อย่างทุเรียน เป็นต้น
ที่สำคัญนั้น กลิ่นปากมักจะมีมากขึ้นในตอนเช้า เนื่องจากขณะที่ร่างกายหลับนั้น จะมีการขับน้ำลายออกมาเป็นจำนวนน้อย ทำให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคในช่องปากตอนเช้า จึงมีกลิ่นปากที่ค่อนข้างแรงกว่าช่วงเวลาอื่น
วิธีการแก้ไขกลิ่นปาก
เนื่องจากสาเหตุส่วนใหญ่มักเป็นจากโรคของในช่องปากเอง ดังนั้นการพบทันตแพทย์ ตรวจเช็คสุขภาพฟัน เป็นเรื่องที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ และที่สำคัญ การดูแลรักษาสุขอนามัยในช่องปากด้วยการแปรงฟันอย่างถูกวิธี ด้วยการแปรงฟันให้สะอาดหรือใช้ไหมขัดฟันช่วยขจัดเศษอาหารตามซอกฟันที่ขนแปรงสีฟันอาจจะเข้าไม่ถึง รวมถึงหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีกลิ่นแรง ซึ่งการแปรงฟันอาจจะช่วยลดแบคทีเรียในช่องปากได้เพียงแค่ บางส่วนเท่านั้น ซึ่งทำให้ไม่ทั่วถึง จึงควรใช้น้ำยาบ้วนปากซึ่งจะช่วยลดแบคทีเรียในที่ ๆ แปรงเข้าไม่ถึง ด้วยน้ำยาบ้วนปากคอลเกต พลักซ์ จะช่วยขจัดกลิ่นปากได้ และยังช่วยปกป้องยาวนาน 12 ชั่วโมง รวมถึงช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียได้อีกด้วย
หรือในกรณีที่มีการแก้ไขปัญหากลิ่นปากแบบผิด ๆ เช่น การอมลูกอมหรือเคี้ยวหมากฝรั่งที่มีกลิ่นช่วยลดกลิ่นปาก อาจจะสามารถช่วยลดกลิ่นปากได้ แต่ลูกอม และหมากฝรั่งบางชนิดจะมีส่วนประกอบของน้ำตาลมาก อาจสร้างปัญหาทำให้เกิดฟันผุตามมาและเกิดเป็นกลิ่นปากขึ้นมาใหม่ได้
ทางที่ดี เราควรที่จะดูแลสุขภาพช่องปากให้อย่างถูกต้องและถูกวิธี แต่ถ้าหากรักษาสุขภาพในช่องปากดีแล้วกลิ่นปากยังไม่หายไป ควรที่จะปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุอื่นที่อาจทำให้เกิดมีกลิ่นปากต่อไปนะคะ
ที่มา colgateplax.co.th