ว่าที่คุณแม่โปรดรู้ไว้ อาหารการกินที่คุณแม่หยิบ-ตักใส่ปากระหว่างตั้งครรภ์นั้น นอกจากจะส่งผลต่อสุขภาพกายของเด็กแล้ว ผลวิจัยล่าสุดยังพบว่า ส่งผลต่อสุขภาพจิตของเด็กด้วย
ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเดคิน แห่งออสเตรเลีย ทำโครงการศึกษากรณีที่ว่านี้ร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นเกี่ยวกับแม่และเด็กในนอร์เวย์ เพื่อสำรวจแม่-ลูกชาวนอร์เวย์กว่า 2.3 หมื่นราย
ผลลัพธ์ที่ได้ถือเป็นครั้งแรกที่โลกได้ล่วงรู้ว่า การกินอาหารที่ไม่ดีของคุณแม่ โดยเฉพาะอาหารจังค์ฟูดหรืออาหารขยะ ซึ่งมักจะให้พลังงานสูง แต่คุณค่าทางโภชนาการต่ำ ส่งผลกระทบถึงนิสัยใจคอของลูกไปยันโต โดยเด็กที่เกิดจากคุณแม่นักกินจังค์ฟูดมีแนวโน้มสมาธิสั้น ซึมเศร้า ก้าวร้าว และชอบวิตกกังวล
เมื่อเป็นเช่นนี้เหล่านักวิจัยจึงเตือนให้คุณแม่ตั้งครรภ์ใส่ใจเลือกอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อตนเองและลูกน้อยในครรภ์ ที่สำคัญอย่าคิดกินเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเพื่อเผื่อเจ้าตัวน้อยในครรภ์ เพราะนั่นจะทำให้เด็กเกิดมาเสี่ยงเป็นโรคอ้วนได้
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเดคิน แห่งออสเตรเลีย ทำโครงการศึกษากรณีที่ว่านี้ร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นเกี่ยวกับแม่และเด็กในนอร์เวย์ เพื่อสำรวจแม่-ลูกชาวนอร์เวย์กว่า 2.3 หมื่นราย
ผลลัพธ์ที่ได้ถือเป็นครั้งแรกที่โลกได้ล่วงรู้ว่า การกินอาหารที่ไม่ดีของคุณแม่ โดยเฉพาะอาหารจังค์ฟูดหรืออาหารขยะ ซึ่งมักจะให้พลังงานสูง แต่คุณค่าทางโภชนาการต่ำ ส่งผลกระทบถึงนิสัยใจคอของลูกไปยันโต โดยเด็กที่เกิดจากคุณแม่นักกินจังค์ฟูดมีแนวโน้มสมาธิสั้น ซึมเศร้า ก้าวร้าว และชอบวิตกกังวล
เมื่อเป็นเช่นนี้เหล่านักวิจัยจึงเตือนให้คุณแม่ตั้งครรภ์ใส่ใจเลือกอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อตนเองและลูกน้อยในครรภ์ ที่สำคัญอย่าคิดกินเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเพื่อเผื่อเจ้าตัวน้อยในครรภ์ เพราะนั่นจะทำให้เด็กเกิดมาเสี่ยงเป็นโรคอ้วนได้
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์